ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ตอนคนล่าเมฆ

เรื่องคนล่าเมฆนี้ เป็นเรื่องของทีมงานทำฝนหลวงได้รับภารกิจสำคัญในการแก้ไขความแห้งแล้งตอนปี พ.ศ. 2542 ครับ ปีนั้นประเทศไทยแล้งจัดมากๆ ภาพยนตร์เรื่องจะนี้สอนให้เราได้รู้ว่า ถ้าเรามีความพยายามไม่ย่อท้อ ความตั้งใจนั้นจะประสบผลสำเร็จเองครับ เหมือนที่ทีมงานทำฝนหลวงอดทนจนทำฝนหลวงได้ในที่สุด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลานานก็ตามที่ครับ

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ตอนราชประชานุเคราะห์

เรื่องราชประชานุเคราะห์นี้ จะเกี่ยวกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ที่ในหลวงเป็นคนก่อตั้งขึ้น ที่มีป้าก้อนดินและป้าอ๋อย ไปช่วยผู้ประสบภัยจากความหนาว น้ำท่วม พายุ ไฟไหม้ นั้น และพวกเขาจึงต้องเตรียมตัวตลอดเวลาเพื่อรับมือกับภัยพิบัติเหล่านั้น แต่พวกเขาทั้งสองกลับต้องเผชิญชะตากรรมนั้นกับตัวเอง ทั้งสองพบเห็นผู้คนมากมาย นอนจมกับโคลน บ้านพัง มีคนบาดเจ็บล้มตายมากมาย และหนึ่งในผู้บาดเจ็บก็คือ แม็คลูกชายของป้าก้อนดิน ที่นอนอยู่กลางโคลน ผมว่าเรื่องนี้ทำให้พวกเราได้รู้ว่าในหลวงไม่เคยทอดทิ้งประชาชนไม่ว่าจะมีภัยอันตายอะไร พระองค์ช่วยเหลือพวกเราอย่างเต็มที่

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ตอนจากฟ้าสู่ดิน

เรื่องจากฟ้าสู่ดิน เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของชาวนาในปัจจุบันนี้ เมื่อน้ำท่วมขัง ข้าวก็ตาย ต้องไปซื้อข้าวของคนอื่นกิน และเอาที่นาไปจำนองเพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารกิน พอถึงเวลาไม่เงินก็เข้าไปหางานทำในกรุงเทพฯ และมีชาวนาคนหนึ่งชื่อ สมหวัง เขาได้เปิดหนังสืออ่านเกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวง และสุดท้ายเขาก็กลับไปเป็นชาวนาปลูกข้าวเหมือนเดิม เพราะได้ยินเพลงยิ้มสู้ที่คนตาบอดร้องทำให้สมหวังคิดได้ว่าขนาดคนตาบอดเขายังสู้เลย แล้วเรามีมือมีเท้าครบเราจะยอมท้ออย่างนั้นหรอ

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ตอนแผ่นดินของเรา

ภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อนๆจะได้เห็นความรักของเราที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัว และความรักพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อเราเช่นกัน โดยจะเสนอเป็นเพลงต่างๆครับ ในเพลงแรกเพื่อนๆจะเห็นว่าในหลวงเป็นที่รักของพวกเรามาก จะเห็นได้จากการที่ประชาชนมารับเสด็จของพระเจ้าอยู่หัวถึงแม้พระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จมาทางรถไฟ แต่ประชาชนก็รับเสด็จ ส่วนในตอนที่ 2 3 และ4 เพื่อนๆจะเห็นว่าในหลวงรักประชาชนมากแค่ไหน โดยหระองค์ทรงคิดโครงการฝนเทียม และตอนสุดท้าย คือตอนที่4 จะเห็นว่าพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีโดยทรงเล่นแซกโซโฟน และประพันธ์เพลงต่างๆมากมาย ในช่วงสุดท้าย ประชาชนจะร่วมใจกันถวายความจงรักภักดีแก่ในหลวงกันครับ

ภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ ตอนอาม่า

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ อาม่าที่เดินทางจากจีนมาอยู่เมืองไทย ที่ด้วยแรงบันดาลใจจากภาพที่เห็นพระเจ้าอยู่หัว เหงื่อหยดเป็นเม็ดที่ปลายจมูก จึงทำให้อาม่า อยากจะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และยังอยากจะรู้ความหมายอย่างถ่องแท้อีกด้วย เพราะอาม่ารู้สึกว่า เมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญ อาม่าอยากให้ลูกหลาน ไม่เพียงยืนตางด้วยหัวเข่า แต่อยากให้ยืนตรงด้วยหัวใจ มากกว่า
อาม่าบอกเล่าเรื่องราวที่มาอาศัอยูยเมืองไทยอนสุขสบายให้อาหมวยฟัง อาหมวยจึงเล่าต่อให้อาตี๋ และอาตี๋ก็รู้เรื่องถึงที่มาของเหงื่อเม็ดใส ปลายจมูกของพระเจ้าอยู่หัว และในที่สุดอาม่าก็เข้าใจความหมายของเพลงสรรเสริญ และยังทำให้ตระกูล รุ่นลูก และหลานเข้าใจ และลึกซึ้ง ถึงเหงื่อทุกหยดที่พระเจ้าอยู่หัว ทรงทำเพื่อคนไทยทุกคนครับ

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ตอนเหรียญของพ่อ

เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของครอบครัวครู ธานี รักษ์ภูมิ ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระราชทานให้กับครอบครัวของครูธานี เมื่อครูธานี ต้องเสียขาข้างซ้ายไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบในสามชายแดนภาคใต้หลังจากที่เขากลับจากการรับพระราชทานเหรียญจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานนะครูดีเด่น โดยมีลูกชายและเด็กนักเรียนอีกหลายคนนั่งมาในรถด้วย
เมื่อสิทธาลูกชายของครูธานี ได้ทำตามอุดมการณ์ของพ่อ โดยการเป็นตำรวจตะเวนชายแดน และได้แต่งงานกับน้ำพยาบาลสาวบนดอย ซึ่งคอยเป็นกำลังใจให้เขาอยู่เสมอ พร้อมมีลูกที่น่ารักด้วยกันหนึ่งคน และเขายังมีโอกาสได้เข้าเฝ้ารับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เสด็จมาเยี่ยม ตชด.

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ ตอนเรื่องเดียวกัน

นักแสดงนำของเรื่องนี้คือ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ เรื่องนี้จะเล่าถึงความเป็นมาของโครงการหลวง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการปลูกสตรอเบอรี่แทนฝิ่น โคนม และเขื่อนภูมิพล ซึ่งเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นกับแน็ก ชาลี ทั้งกินสตรอเบอรี่ ไฟดับ ดื่มนม และน้ำ ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เอง ในเรื่องนี้จะมีแง่คิดดๆแฝงอยู่ ในสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเราครับ บางทีอาจจะดูว่ามันง่ายๆ แต่กลับมีจุดเริ่มต้นที่ลำบากกว่าจะมาถึงเราได้ครับผม